ความเป็นมาก่อนเข้าสู่วงการวิ่ง
ก่อนที่่เข้าสู่วงการวิ่งซึ่งขณะนั้นผมได้ถูกย้ายไปเป็น สวป.สภ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี และที่ สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน ก็มี นายร้อยตำรวจรุ่นเดียวกันเป็น สวป.อยู่ด้วย คือ พ.ต.ท.สุพจน์ มะลิวัลย์ และพ.ต.ท.สุพจน์ฯก็เป็นนักวิ่งชั้นแนวหน้าของกลุ่มอายุในขณะนั้น ได้มาชวนให้ออกไปวิ่งตามงานวิ่งต่างๆ ผมก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง จนในที่สุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 43 ก็ได้ไปวิ่ง งานเมืองเลยมาราธอน ด้วยกัน โดยเพื่อนได้ลงวิ่งฮาล์ฟ ส่วนผมลงมินิฯ ซึ่งผมทำเวลาได้ 0.50.04 ชม. ผมดีใจมาก และนับตั้งแต่นั้นมา ผมก็ได้เข้าสู่วงการวิ่งอย่างสมบูรณ์ โดยใช้คอนเส็ปว่า "วิ่งเพื่อสุขภาพและท่องเที่ยวทั่วไทย" ถึง ณ วันนี้ (31 พ.ค.54) ผมวิ่งไปแล้ว 269 สนาม รวม 66 จังหวัด ครับ
แรงบันดาลใจในการเข้าสู่วงการวิ่ง
ส่วนแรงบันดาลใจในการเข้าสู่วงการวิ่งนั้น จะว่ามีก็ไม่เชิงนัก กล่าวคือ ในช่วงที่ถูกย้ายจากภาคกลางมาอยู่ภาคอิสานนั้น พูดตรงๆว่างานน้อยมาก ทำให้มีเวลาพักผ่อนมาก ในแต่ละวันไม่มีคดีอะไรที่จะให้ทำมากนักเมื่อเทียบกับภาคกลางที่ผมเคยอยู่ซึ่งแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย ก็เลยวิ่งออกกำลังกายแทบทุกวัน โดยพื้นฐานสมัยเป็นตำรวจชั้นประทวนก็วิ่งไล่จับคนร้ายเป็นประจำอยู่แล้วและตอนที่เป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรก็ดำรงค์ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ.)ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครก็พาลูกน้องออกวิ่งและฝึกอยู่เป็นประจำ ดังนั้นการวิ่งของผมจึงไม่มีอุปสรรค์แต่อย่างใด พอเพื่อนมาชวนให้ไปวิ่งตามสนามแข่งก็ไปได้ด้วยดี ไปแล้วได้เหรียญได้เพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน พูดคุยกันสนุกสนาน ก็เลยติดใจการวิ่งมาจนถึงปัจจุบันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น