แนะนำตัวครับ

ผม พ.ต.ท.ประลอง เพื่อนๆนักวิ่งเรียก "พี่ลอง" ในปี 2554 ผมอายุ 65 ปื ตอนนี้เป็นข้าราชการบำนาญ หลังเกษียณ ผมไม่เหงาเพราะมีสิ่งที่ผมชอบและประทับใจคือ การวิ่ง ซึ่งไม่ได้เน้นการแข่งขันเืพื่อชนะคนอื่นหรือหวังเงินรางวัล แต่เป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพ และได้มีโอกาสท่องเที่ยวด้วย สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้มาออกกำลังกายด้วยการเดินวิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา เว็บบล๊อคนี้ผมใช้บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับการวิ่งของผม ไม่ว่าจะเป็นสถิติการไปวิ่งทุกสนาม สถิติการไปวิ่งจังหวัดต่างๆ รวมถึงภาพวิ่งที่ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก รวมถึงได้รับความอนุเคราะห์จากเพื่อนนักวิ่งด้วยกัน เป็นความสุขเล็กๆ ของคนวัยหลังเกษียณครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การวิ่งสวนพฤกษ์อัลตร้ามาราธอน 2014

การวิ่งสวนพฤกษ์อัลตร้ามาราธอน  2014 
        การวิ่งในรายการนี้จะเป็นการวิ่งครั้งที่  4  ของผม  ปรากฏว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง คงเป็นเพราะผมมุ่งมั่นมากเกินไป  เนื่องจากในครั้งนี้มีผู้สมัครวิ่งเดี่ยวมากถึง  309 คน ผมเลยคิดว่าถ้าอยากติด  Top-100 ก็ต้องฝึกซ้อมให้มากเข้าไว้ เพราะ 3 ครั้งที่ผ่านมา มีผู้สมัครแค่  190 กว่าคนเท่านั้น และผมก็ติด Top-100 ทุกครั้งแต่ครั้งนี้คงหวังยาก แต่ก็จะไม่ละความพยายาม และทุกครั้งก็ซ้อมในเดือน เม.ย.ประมาณ 230 กม. แต่ครั้งนี้ผมตั้งเป้าไว้ที่ 250 กม. แต่ผมซ้อมไปถึง 310  กว่า กม.เรียกว่าซุ่มซ้อมก็ว่าได้โดยยังไม่รวมกับการขี่จักรยานแทบทุกวัน และเสร็จสิ้นการซ้อมเมื่อ  28  เม.ย.ซึ่งน่าจะกระชั้นเกินไปหลังจากนั้นก็เริ่มมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อต้นขามีอาการล้ามากๆเลยต้องพึง Paracetamol 

     วันเสาร์ก่อนการวิ่งอาการดีขึ้นมากแต่อาการล้าที่กล้ามเนื้อโคนขาก็ยังมีอยู่ ผมเลยพึ่ง Paracetamol เพื่อให้หลับ และคืนนั้นก็หลับสบาย รุ่งเช้าก็พร้อมแข่ง เมื่อเริ่มแข่งผมพยายามควบคุมอารมณ์และวิ่งตามแผนที่วางไว้ทุกอย่างจนครบ  4 ชม. พอเริ่ม  ชม.ที่  5 อาการตะคริวก็เริ่มมาเยือน ซึ่งตอนนั้นได้เพียง  18 รอบ  จนวิ่งต่อไม่ได้ ต้องหยุดนวดและนอนพักไปเกือบ 2 ชม.อาการก็ดีขึ้น เลยคิดว่าเดินๆวิ่งๆอีกสักรอบเพื่อไปคืนชิฟ แต่ก็ไม่มีอาการใดๆ เหลือบดููนาฬิกา เหลือเวลาอีกสามชั่วโมงกว่า 

     ผมเลยคิดว่าถ้าไม่เป็นอะไรก็พอมีเวลาที่จะทำให้ครบ  30 รอบได้ทัน ก็เลยเร่งความเร็วขึ้นนิดหนึ่ง  ได้มา  3 รอบ พอเข้ารอบที่  4 เท่านั้นแหละมาพร้อมกันทั้ง  2 ขาแทบล้มต้องนอนข้างทางและร้องด้วยความเจ็บปวด จนเพื่อนนักวิ่งเข้ามาช่วยนวดจนดีขึ้นและประคองให้ผมลุกและเดินประกบผมไปจนถึงจุดเช็คพ้อยส์ ผมจึงเดินไปคืนชิฟและออกจากการแข่งขันทันที  รวมวิ่งได้  22  รอบ คิดเป็นระยะทางได้  46.2  กม.



      ผมวิเคราะห์ว่าความล้มเหลวของผม มาจากการที่ซ้อมมากเกินไป หรือ Over Train  จนร่างกายฟื้นตัวไม่ทัน และแผนการวิ่งที่บีบตัวเองมากเกินไปจึงทำให้กล้ามเนื้อบอบช้ำเร็ว ปีหน้าถ้ามีโอกาสไปวิ่งอีก ก็จะไม่ซ้อมมากขนาดนี้อีกแล้ว และเป้าหมายของการวิ่งก็ต้องเปลี่ยนไป คงไม่ใช่เพื่อเสื้อ Top-100 แต่เพื่อ ให้ได้ถ้วยผู้พิชิตเท่านั้น อย่าลืมถ้ามีโอกาส พบกันใหม่ในสวนพฤกษ์อัลตร้ามาราธอน  10  ชม. 2015 สวัสดี

ขอบคุณเครดิตภาพ บรรยากาศการวิ่ง
จาก  โปรตุ้ม , โปรรุจน์ , หญิงเตือน, โปรวัฒนา , จิมรันนิ่ง, สุเทพ, โปรธันวา, เพื่อนเพื่อชีวิตสมุทรสาคร , และท่านอื่นๆ ที่มิได้เอ่ยนาม