แนะนำตัวครับ

ผม พ.ต.ท.ประลอง เพื่อนๆนักวิ่งเรียก "พี่ลอง" ในปี 2554 ผมอายุ 65 ปื ตอนนี้เป็นข้าราชการบำนาญ หลังเกษียณ ผมไม่เหงาเพราะมีสิ่งที่ผมชอบและประทับใจคือ การวิ่ง ซึ่งไม่ได้เน้นการแข่งขันเืพื่อชนะคนอื่นหรือหวังเงินรางวัล แต่เป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพ และได้มีโอกาสท่องเที่ยวด้วย สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้มาออกกำลังกายด้วยการเดินวิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา เว็บบล๊อคนี้ผมใช้บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับการวิ่งของผม ไม่ว่าจะเป็นสถิติการไปวิ่งทุกสนาม สถิติการไปวิ่งจังหวัดต่างๆ รวมถึงภาพวิ่งที่ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก รวมถึงได้รับความอนุเคราะห์จากเพื่อนนักวิ่งด้วยกัน เป็นความสุขเล็กๆ ของคนวัยหลังเกษียณครับ

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2559

วิ่งอัลตร้าวาริชภูมิมาราธอน 24 ชั่วโมง ปี2558

วิ่งอัลตร้ามาราธอน 24 ชั่วโมงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 88 พรรษา

ครั้งนี้ผมได้ไปร่วมวิ่งด้วย หลังจากที่เคยไปร่วมวิ่งมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้มีความตั้งใจว่าจะวิ่งให้ได้ระยะทาง 88 กม. แต่สภาพร่างกายช่วงนี้...คงยากกกกส์..
     การวิ่ง 24 ชั่วโมงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็ขจพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงมีพระชนมายุ 88 พรรษา ของ โรงพยาบาลวาริชภูมิ จ.สกลนคร วันที่ 28-29 พ.ย.2558 ครั้งนี้ ผมไปร่วมวิ่งด้วยในสภาพที่ร่างกายไม่พร้อม กล่าวคือก่อนหน้านั้น วันที่ 22 พ.ย.2558 ผมได้ไปวิ่งตะนาวศรีเทรลมา ร่างกายยังไม่ฟื้นตัว คืนวันศุกร์รู้สึกปวดเมื่อยจึงพยายามนอนพักผ่อนแต่หัวค่ำ ตี3 ตื่นมาเตรียมตัวเดินทางไปวาริชภูมิ โดยออกเดินทางตี 4 ถึงวาริช 6.30 น. พิธีเปิด 8.00 น. จึงปล่อยตัวนักวิ่งช่วง 8.30 น.  

     การวิ่งของผมในช่วงแรก ผมตั้งใจว่าภายใน 7 ชั่วโมงต้องวิ่งให้ได้ 100 รอบ(วัดระยะได้รอบละ 465 เมตร)  แล้วก็ทำได้จึงได้หยุดพักไปประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นเริ่มวิ่งใหม่เพื่อจะให้ครบ 88 กม.ตามที่ได้ตั้งใจไว้ แต่พอวิ่งได้อีก 22 รอบก็รู้สึกว่าคงไม่อาจทำได้แน่ๆ เพราะแข้งขามันปวดร้าวไปหมด โดยเฉพาะช่วงแก้มก้นทั้งสองข้างมันเจ็บไปหมดแล้วจึงตัดสินใจว่า คงพอแล้วและจะหยุดอยู่ที่ 122 รอบเท่านั้น หลังจากนั้นจึงเข้านอนพัก หลับไปจนตื่นขึ้นมาช่วงตี 1 ร่างกายยังไม่ฟื้นตัว ไปเข้าห้องน้ำ เห็นเพื่อนนักวิ่งคนอื่นๆก็ยังคงวิ่งกันอยู่ทั้งคืนและชวนให้ผมออกมาเดินสลับจ๊อกเอา แต่ผมยังต้องการพักจึงเข้ามานอนต่อ พอประมาณตี 5.30 น. ผมตื่นมาตามปกติ หิวแล้วจึงออกไปหากาแฟและปลาท่องโก๋ ที่โรงอาหารของนักวิ่ง เหลือบไปเห็นป้ายแจ้งผลการวิ่ง อ้าว เรายังอยู่อันดับ 2 นี่นา นำห่างอันดับ 3 อยู่ 8 รอบ  ส่วนอันดับ 1 นั้นไม่ต้องดูแล้วเพราะยังไงก็คงไม่ทันเขาแน่ๆ  แต่อยู่ที่จะผมจะรักษาอันดับ 2 ต่อไว้ได้หรือไม่เท่านั้น 


     ช่วงเช้าหลังจากได้พักผ่อนเต็มที่ผมรู้สึกดีขึ้นมาก ร่างกายได้พักทั้งคืนแล้วช่วงเช้าถือว่าเป็นการยืดกล้ามเนื้อดังนั้นเหลืออีก 2 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนหมดเวลาที่คณะกรรมการจัดงานวิ่งกำหนดไว้  ผมขอลองอีกซักตั้งน่าจะไหวจึงได้กลับมาเปลี่ยนชุดวิ่ง และออกไปวิ่งอีก 21 รอบ จนหมดเวลา สรุปแล้วยังคงรักษาอันดับ 2 ไว้ได้ โดยทั้งห่างอันดับ 3 อยู่แค่ 3 รอบเท่านั้น รวมจำนวนรอบที่ผมทำได้ทั้งหมด 143รอบ



   การวิ่งของผมครั้งนี้ ตั้งใจมาร่วมงาน แต่ก็ไม่ฝืนกับสภาพร่างกายของตนเอง เหนื่อยก็พักเจ็บก็หยุด  สนามนี้ให้เวลาในการวิ่ง 24 ชั่วโมง แต่ผมวิ่งบ้าง หยุดบ้างพักบ้าง ใช้เวลาในการวิ่งจริงๆเพียง 15 ชั่วโมง  ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทำระยะทางได้ตามที่ตั้งใจไว้ได้ แต่ถือว่าสามารถถนอมร่างกายได้ไม่บาดเจ็บ เพียงเท่านี้ผมก็ดีใจแล้วครับ ถ้าปีหน้ามีโอกาสก็จะพยายามทำให้ดีกว่านี้แน่นอน



ภาพบรรยากาศระหว่างวิ่งครับ ประทับใจทุกครั้งที่ได้ไปร่วมงานนี้

พิธีเปิด ร่วมกันวิ่งก่อน 1 รอบ ไม่นับแต้ม นำโดย ผอ.รพ.วาริชภูมิ

วิ่งไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็เดิน ข้างๆ จะมีซุ้มไว้ให้ถ่ายรูปเพลินๆ

ทักทายคุณหมอ ผอ.วรชัย ท่าน ผอ.รพ.วาริชภูมิเจ้าของงานนี้ ประทับใจทุกครั้งที่เจอกันท่านอัธยาศัยดีมากครับ

พร้อมแล้วครับกับการลงสนามนี้

ผลการแข่งขันจะลงให้ดูเป็นระยะๆ ในสกอร์นี้ผมมาดูในช่วงตื่นนอนตอนเช้า ยังอยู่อันดับ2 แต่อันดับ3 ใกล้จะแซงเหลือเวลาอีกนิดหน่อย เลยฮึดสู้อีกครั้งครับ ก่อนหมดเวลาทำได้รวม 143 รอบ เข้าวินที่ 2 รักษาระดับไว้ได้

แฟนพันธุ์แท้สนามนี้ครับ เจอกันทุกปีที่นี่

ผลงานปีนี้ 143 รอบ ครับ

สกอร์นี้จะรวมผลงานของนักวิ่งทุกๆคน เป็นภาพรวมของการวิ่งสะสมทั้งหมดของสนามนี้ครับ

เส้นชัยของพวกเรา

ป้ายสะสมระยะครับ จะได้มารอบละ 1 เส้น สะสมไว้ ถ้าได้เยอะก็นำไปฝากขึ้นสกอร์กับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดทั้งวัน

หัวมุมสนามวิ่ง เป็นเส้นทางรอบสระน้ำ วัดระยะได้ต่อรอบ =465 เมตรต่อรอบ

ถ้วยรางวัลของสนาปีนี้ที่ได้มาครอบครอง

รอบสุดท้ายก่อนหมดเวลารับมาอีก 1 เส้น 

รอบสนามมีทั้งแดด และร่มเงาไม้เป็นระยะ แต่ช่วงกลางวันขอบอกว่าร้อนสุดๆครับ ปล่อยตัวสาย 08.30 น.เป็นช่วงที่แดดแรง ต้องเจอแดดทั้งวัน งานนี้ต้องอึดและทนถึงจะรอดครับ

เวทีสำหรับประกอบพิธีการเปิด และปิดงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น