แนะนำตัวครับ

ผม พ.ต.ท.ประลอง เพื่อนๆนักวิ่งเรียก "พี่ลอง" ในปี 2554 ผมอายุ 65 ปื ตอนนี้เป็นข้าราชการบำนาญ หลังเกษียณ ผมไม่เหงาเพราะมีสิ่งที่ผมชอบและประทับใจคือ การวิ่ง ซึ่งไม่ได้เน้นการแข่งขันเืพื่อชนะคนอื่นหรือหวังเงินรางวัล แต่เป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพ และได้มีโอกาสท่องเที่ยวด้วย สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้มาออกกำลังกายด้วยการเดินวิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา เว็บบล๊อคนี้ผมใช้บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับการวิ่งของผม ไม่ว่าจะเป็นสถิติการไปวิ่งทุกสนาม สถิติการไปวิ่งจังหวัดต่างๆ รวมถึงภาพวิ่งที่ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก รวมถึงได้รับความอนุเคราะห์จากเพื่อนนักวิ่งด้วยกัน เป็นความสุขเล็กๆ ของคนวัยหลังเกษียณครับ

วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิ่งเฉลิมพระเกียรติ์ 86 พรรษา 86 ชั่วโมง

วิ่งเฉลิมพระเกียรติ์ 86 พรรษา 86 ชั่วโมง

       อีกครั้งหนึ่งสำหรับการเข้าร่วมวิ่งระยะยาวกว่ามาราธอนของผม คือวิ่งเฉลิมพระเกียรติ์ 86 พรรษา 86 ชั่วโมง ที่โรงพยาบาลวาริชภูมิ จ.สกลนคร ซึ่งจัดขึ้น เมื่อเวลา 02.00 น.ของวันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 56 จนถึง 16.00 น.ของวันจันทร์ที่ 25 พ.ย. 56 ผมเตรียมตัวมานานพอสมควร แต๋โชคร้ายก่อนถึงวันแข่ง 3 วัน มีอาการเป็นหวัดและไอเล็กน้อย ทำให้ไม่มั่นใจว่าจะเข้าร่วมแข่งได้ แต่เมื่อถึงเวลาก็เดินทางไปร่วมแข่งทันที และทุกครั้งผมจะตั้งเป้าไว้ว่าช่วงเวลาแรกไม่เกิน 6 หรือ 7 ชั่วโมงผมจะต้องวิ่งให้ได้ 100 รอบเป็นอย่างน้อย(รอบละ 465 เมตร)หรือ 46.5 กม. ซึ่งเป็นระยะที่ยาวกว่ามาราธอน เมื่อเริ่มการแข่งขันผมวิ่งตามแผนไปเรื่อยๆ และก็ทำได้ 100 รอบเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.(เวลาปล่อยตัวประมาณ 02.20 น.)ผมจึงพักการแข่งขัน เพราะเวลานั้นใกล้เวลาที่จะทำพิธีเปิดการแข่งขัน แต่เนื่องจากสภาพร่างกายผมไม่ค่อยพร้อมจึงเริ่มมาแข่งใหม่ในช่วงบ่ายแต่ก็ได้ไม่กี่รอบจึงต้องพักอีกเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน หลังจากนอนหลับไปสักพัก ก็ตื่นขึ้นมาเมื่อเวลาตีสี่เศษๆจึงออกมาแข่งอีก จนถึงเวลาประมาณ 07.46  น.ได้ทั้งหมด 201 รอบ คิดเป็นระยะทาง 93.465 กม. แต่เนื่องจากมีธุระที่ต้องเดินทางไปรับคนที่บ้านที่ไปงานแต่งที่อุดรธานีประกอบกับสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมจึงได้ถอนตัวออกจากการแข่งขันทันที

          ถึงแม้การแข่งขันครั้งนี้ผมจะไม่ได้อยู่จนจบการแข่งขัน ผมก็คิดว่าผมได้ผ่านสนามมาราธอนมาได้อีกสนามหนึ่ง และที่สำคัญผมได้ไปร่วมงานนี้มา 3 ปีแล้ว รู้สึกประทับใจหลายอย่างเช่นได้เห็นนักวิ่งเมื่อปีสองปีที่แล้วมีการพัฒนาทั้งความเร็วและความอดทนขึ้นมากว่าเดิมมาก เห็นผู้สูงอายุเข้ามาร่วมวิ่งรวมทั้งเด็กๆตัวเล็กๆได้มาร่วมวิ่งอย่างสนุกสนาน บุคคลากรและประชาชนในพื้นที่ให้ความสนใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยได้สนับสนุนอาหารและเครื่องดื่มรวมทั้งทุนทรัพย์เพื่องานนี้ทำให้มีอาหารและเครื่องดื่มบริการตลอดเวลา และขอชื่นชมเจ้าของโครงการ คือโรงพยาบาล วาริชภูมิที่ได้รับความสำเร็จในการสร้างเสริมสุขภาพให้แก่ชุมชน ผมขอยืนยันว่าหากจัดอีกเมื่อไรผมก็จะไปร่วมด้วยแน่นอน

ภาพบรรยากาศในงานวิ่งครั้งนี้ครับ (ขอบคุณภาพจากเฟสของ DrVorachai ) 


















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น